ขายออกกำไรงาม!อดีตแข้ง เบรนท์ฟอร์ด ที่ฉายแสงใน พรีเมียร์ลีก

 

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับทีมน้องใหม่ล่าสุด อย่าง เบรนท์ฟอร์ด ที่คว้าตั๋วเลื่อนชั้นใบสุดท้ายขึ้นมาเล่น พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021/22 ซึ่งนับเป็นการคัมแบ็กสู่ลีกสูงสุดในรอบ 74 ปี

   

 ผู้เล่นชุดปัจจุบันของ "เดอะ บีส์" แน่นอนว่าแฟนบอลส่วนใหญ่อาจไม่คุ้นชื่อมากนัก แต่หลังจากนี้หลายคนจะได้ยินชื่อพวกเขามากขึ้นจากการเลื่อนชั้นมาเล่นลีกสูงสุด อังกฤษ

   
อย่างไรก็ตาม บนเวที พรีเมียร์ลีก ตอนนี้ มีนักเตะหลายรายที่เคยเป็นผู้เล่นของ เบรนท์ฟอร์ด มาก่อน ซึ่งแต่ละคนก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม และที่สำคัญ การที่ขายนักเตะเหล่านี้ออกไปทำให้ เบรนท์ฟอร์ด ได้กำไรอย่างงดงาม ซึ่งถึงแม้จะเสียนักเตะแกนหลักออกไป แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังประสบความสำเร็จเลื่อนชั้นได้อย่างน่าชื่นชม

1. โอลลี่ วัตกินส์ (แอสตัน วิลล่า)
ซัมเมอร์ปีก่อน แอสตัน วิลล่า ตัดสินใจควักเงินจำนวน 28 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,242 บาทเพื่อคว้าตัว โอลลี่ วัตกินส์ กองหน้าเลือดผู้ดีมาจาก เบรนท์ฟอร์ด

วัตกินส์ ย้ายจาก เอ๊กเซเตอร์ มาอยู่ "เดอะ บีส์" ด้วยค่าตัวแค่ 1.8 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 80 ล้านบาทเมื่อปี 2017 และโชว์ฟอร์มเด่นสุดๆ ในฤดูกาล 2019/20 โดยเจ้าตัวซัดประตูในลีก แชมเปี้ยนชิพ ได้ถึง 25 ประตู ซึ่งในปีต่อมาบนลีกสูงสุด อังกฤษ เจ้าตัวก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับ "สิงห์ผยอง" จนก้าวขึ้นไปติดทัพ "สิงโตคำราม" ชุดใหญ่

ทั้งนี้ หลังจาก เบรนท์ฟอร์ด ปล่อย วัตกินส์ ออกไป พวกเขาก็เจียดเงิน 5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 200 ล้านบาท และอาจเพิ่มไปอีก 5 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว อิวาน โทนี่ย์ มาจาก ปีเตอร์โบโร่ เข้ามาทดแทน ซึ่งสุดท้าย ดาวยิงวัย 25 ปีก็ช่วยถลุงประตูให้กับทีมถึง 33 ประตู โดยหนึ่งในนั้นเป็นการซัดจุดโทษในเกมชี้ชะตาเลื่อนชั้นที่ พลพรรคผึ้งน้อย เอาชนะ สวอนซี ไปได้ 2-0

2. นีล โมเปย์ (ไบรท์ตัน)
เบรนท์ฟอร์ด กระชากตัวดาวเตะเลือดน้ำหอมมาจาก แซงต์-เอเตียน ด้วยค่าตัว 1.6 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 71 ล้านบาทด้วยสัญญา 2 ปีครึ่ง



โมเปย์ ลงเล่นในศึก แชมเปี้ยนชิพกับ เบรนท์ฟอร์ด 2 ซีซั่น โดยกดไป 37 ประตู จนทำให้ ไบรท์ตัน ทุบกระปุก 20 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 890 ล้านบาทคว้าตัวมาล่าตาข่ายบนเวที พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2019

3. ซาอิด เบนราห์มา (เวสต์แฮม)
อีกหนึ่งแข้งที่ทำกำไรให้กับ เบรนท์ฟอร์ด ได้อย่างงดงาม พวกเขาคว้าตัว ซาอิด เบนราห์มา ปีกแอลจีเรียน มาจาก นีซ ด้วยค่าตัวแค่ 2.7 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 120 ล้านบาท เมื่อปี 2018



เบนราห์มา โชว์ฟอร์มเด่นสุดๆ ด้วยลีลากระชากลากเลื้อยริมเส้น จนในปี 2020 ก็ถูก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยืมตัวมาใช้งานพร้อมออปชั่นซื้อขาด

จากนั้นไม่นาน เวสต์แฮม ทำการยกเลิกข้อตกลงยืมตัว เพื่อซื้อขาดแข้งรายนี้ เพื่อหลีกทางพื้นที่ผู้เล่นตัวยืมให้แก่ เจสซี่ย์ ลินการ์ด ซึ่งค่าตัวของ เบนราห์มา เบื้องต้นอยู่ที่ 25 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,100 ล้านบาท พร้อมกับอาจเพิ่มไปอีก 5 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไขที่ทำกันไว้

4. เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (เบิร์นลี่ย์)
เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกองหลังชาวอังกฤษที่มีฝีเท้าดีลำดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้กับ เบิร์นลี่ย์ นั้น ทาร์คอฟสกี้ เคยเล่นให้กับ เบรนท์ฟอร์ด มาก่อนระหว่างปี 2013-2016 และเคยลงเล่นระดับลีก วัน กับ "เดอะ บีส์" ในฤดูกาล 2013/14 ก่อนจะพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมา แชมเปี้ยนชิพ

5. สจ๊วร์ต ดัลลาส (ลีดส์ ยูไนเต็ด)
ดาวเตะสารพัดประโยชน์ที่แจ้งเกิดเต็มตัวกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลล่าสุด ก็เคยเป็นส่วนหนึ่งกับ เบรนท์ฟอร์ด เหมือนกัน



สจ๊วร์ต ดัลลาส ถูก เบรนท์ฟอร์ด ดึงตัวมาจาก ครูเซเดอร์ส ทีมในลีกไอร์แลนด์เหนือ และลงเล่นในระดับลีกวัน อีกทั้งยังเคยปล่อยตัวยืมไปเล่นกับ นอร์ทแธมป์ตัน ทาวน์ ในลีก ทู มาแล้วด้วย

อย่างไรก็ตาม ช่วงตลาดซัมเมอร์ปี 2015 "ยูงทอง" คว้าตัว ดัลลาส มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 1.3 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 57 ล้านบาท และเป็นกำลังหลักให้กับ ลีดส์ มาตลอดจนกระทั่งก้าวขึ้นมาโดดเด่นบนเวที พรีเมียร์ลีก 2020/21

6. คริส เมแฟม (บอร์นมัธ)
เติบโตมาจากศูนย์ฝึกเยาวชนของ เบรนท์ฟอร์ด และทำผลงานได้โดดเด่นใน แชมเปี้ยนชิพ ตั้งแต่อายุ 20 ปี จนเมื่อเดือนมกราคม ปี 2019 บอร์นมัธ ตัดสินใจลงทุนเงินจำนวน 12 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 530 ล้านบาท ดึงตัวแนวรับรายนี้มาเล่นใน พรีเมียร์ลีก



อย่างไรก็ตาม เมแฟม ตกชั้นไปกับ บอร์นมัธ เมื่อฤดูกาล 2019/20 และที่น่าเจ็บใจคือ เพลย์ออฟเลื่อนชั้นในปีนี้ ต้นสังกัดปัจจุบันของเขา แพ้ให้กับทีมเก่าของตัวเอง ในรอบรองชนะเลิศ

7. อันเดร เกรย์ (วัตฟอร์ด)
อันเดร เกรย์ ระเบิดฟอร์มกับ ลูตัน ทาวน์ ใน คอนเฟเรนซ์ ลีก กับ ลูตัน ก่อนที่ เบรนท์ฟอร์ด จะควักเงิน 5 แสนปอนด์มาล่าตาข่ายในถิ่น คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม



เกรย์ อยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด ได้แค่ 1 ปีครึ่ง ก่อนจะถูกขายให้ เบิร์นลี่ย์ เพื่อนร่วมลีก แชมเปี้ยนชิพ ในตอนนั้นด้วยค่าตัวถึง 11.1 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 490 ล้านบาท และมีส่วนพา "เดอะ คลาเร็ตส์" เลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2017 โดยปัจจุบัน เกรย์ ลงเล่นให้กับ วัตฟอร์ด ที่จบอันดับ 2 ลีก แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งก็พา "แตนอาละวาด" กลับขึ้นมาเล่น พรีเมียร์ลีก ได้อีกครั้ง