แค่เกมอุ่นเครื่องเบาๆ ! เจาะ 5 เรื่องดีๆ เกมลิเวอร์พูล พ่าย แฮร์ธ่า เบอร์ลิน


 ความพ่ายแพ้ในเกมพบ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 3-4 ในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" รู้สึกผิดหวังอะไรมากนัก ในทางกลับกับพวกเขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเพราะได้เห็นสิ่งดีๆ หลายอย่างในแมตช์นี้


เริ่มด้วยการเห็นฟอร์มการเล่นเกมรุกของทีมที่เต็มไปด้วยความสนุกเร้าใจ การเล่นของดาวรุ่งอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่นับวันยิ่งดูดีมีอนาคต รวมไปถึงการกลับมาครั้งแรกในรอบหลลายเดือนของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โจ โกมเซ !!

นอกจากนี้ฟอร์มของ ทาคูมิ มินามิโนะ และ อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ดูดีขึ้น และยังมีส่วนยิงประตูให้ทีมด้วย น่าจะทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ รู้สึกอุ่นใจ เพราะหากทั้งสองคนรักษาผลงานแบบนี้ต่อไป ยิ่งทำให้ทีมมีทางเลือกในเกมรุกที่หลากหลายมากขึ้น

สำหรับในช่วงที่เหลืออยู่ของเกมปรีซีซั่น คล็อปป์ น่าจะให้โอกาสพวกนักเตะตัวหลักได้ลงสนามมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สภาพร่างกายพร้อมเต็มที่สำหรับเกมเปิดฤดูกาลพบ นอริช ซิตี้ ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้

1. ฟานไดค์-โกเมซ กลับมาแล้ว



ครั้งล่าสุดที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ ได้ลงทำหน้าที่คุมเกมรับให้กับลิเวอร์พูลเกิดขึ้นในแมตช์ที่พวกเขาพ่ายแพ้ยับเยินให้กับ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า 2-7 เมื่อเดือนตุลาคม 2020

ปราการหลังเลือดดัตช์ ต้องพักยาวหลังจากเกมดาร์บี้แมตช์เสมอ เอฟเวอร์ตัน ขณะที่ โกเมซ โดนโชคชะตาเล่นงานเหมือนกันในอีก 1 เดือนหลังจากนั้น นั่นทำให้ "หงส์แดง" ต้องเจอกับวิกฤติตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก

หลังจากที่สาวก "เดอะ ค็อป" ต้องเฝ้ารอการกลับมาของทั้ง 2 คนนานแสนนานตอนนี้พวกเขาได้ลงมาช่วยทีมในเกมอุ่นเครื่องที่สนามทิโวลี่ สตาดิโอน ทิโรล แม้จะได้เล่นด้วยกันเพียงไม่กี่นาที แต่ก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากในอีกไม่กี่สัปดาห์



แน่นอนว่าการแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงในเกมรับของ ลิเวอร์พูล ย่อมเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้พวกเขามีแนวรับให้เลือกใช้ถึง 6 คนได้แก่ โฌเอล มาติป, อิบราฮิม่า โกนาเต้, ฟาน ไดค์, โกเมซ และสองดาวรุ่งอย่าง ริส วิลเลี่ยมส์ กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์

สำหรับเกมอุ่นเครื่องล่าสุด คล็อปป์ เลือดใช้งาน มาติป กับ โกนาเต้ ลงเล่นตัวจริง และทั้งสองคนก็ทำหน้าที่ได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ฉะนั้นนี่คือคู่แข่งสำคัญของ ฟาน ไดค์ และ โกเมซ ในการชิงตำแหน่งตัวจริงของทีม ส่วน "เจ้าหนูริส" กับ ฟิลลิปส์ คงต้องรอโอกาสลงสนามในเกมฟุตบอลถ้วยเป็นส่วนใหญ่

จากผลงานที่เห็นของ ฟาน ไดค์ กับ โกเมซ ในเกมแพ้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ต้องยอมรับว่าสภาพร่างกายของพวกเขายังไม่แข็งแกร่ง ขาดแมตช์ความฟิตไปเยอะพอสมควร ฉะนั้นในช่วงที่เหลืออยู่ของปรีซีซั่น คงจะได้เห็นทั้งคู่ลงสนามนานขึ้น แต่สำหรับช่วงต้นฤดูกาลมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจจะต้องเริ่มต้นด้วยการอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง

2. เอลเลียตต์ ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ



ดูเหมือนว่า คล็อปป์ จะชื่นชอบ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เป็นพิเศษในช่วงปรีซีซั่นนี้ และให้โอกาสเขาได้โชว์ศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ก็ได้ลงเล่นตัวจริง 45 นาทีแรกเกมชนะ ไมนซ์ แถมผลงานก็โดดเด่นเป็นสง่าซะด้วย

เอลเลียตต์ กลับมาจากการถูกส่งไปเก็บเลเวลแบบยืมตัวกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา พร้อมผลงานซัดไป 7 ประตูจาก 42 เกม และตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมีแววที่จะได้อยู่ในทีมชุดใหญ่ของ "เดอะ เร้ดส์" สำหรับฤดูกาล 2021/2022

ดาวเตะวัย 18 ปีสวมบทกองกลางที่เล่นเกมบุกได้มันเร้าใจ กล้าได้กล้าเสีย และเต็มไปเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น ในแมตช์กับ แฮร์ธ่า เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการผ่านบอลที่เฉียบคม และพยายามที่จะวิ่งหาพื้นที่ว่างเพื่อสร้างเกมรุกให้กับทีมอยู่ตลอด



เอลเลียตต์ พยายามที่จะดันเกมขึ้นสูงตลอดเวลา รวมทั้งช่วยทีมแบบไม่มีเหน็ดเหนื่อย ที่สำคัญยังขยันวิ่งไปปิดพื้นที่เพื่อไม่ให้คู่แข่งได้ทำเกมถนัด สิ่งที่เจ้าตัวแสดงออกมาให้เห็นคือสิ่งที่ คล็อปป์ ต้องการในตัวของลูกทีมทุกคน

ผลงานตลอด 45 นาทีในการยืนร่วมกับ เจมส์ มิลเนอร์ และ นาบี เกอิต้า แสดงให้เห็นว่า เอลเลียตต์ มีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม และการที่เขาได้รับโอกาสลงสนามในเกมอุ่นเกือกอย่างต่อเนื่อง คงเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าในซีซั่นหน้า เจ้าหนูเลือดผู้ดีรายนี้ จะอยู่ในแผนการสร้างทีมของ คล็อปป์ แน่นอน

3. มินามิโนะ ผลงานน่าสนใจมากขึ้น



หลายคนมองว่า ทาคูมิ มินามิโนะ อาจจะหมดอนาคตกับ "หงส์แดง" ไปแล้ว หลังจากที่เขาไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เห็นนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เร้ดบูลล์ส ซัลซ์บวร์ก แถมช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็โดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ เซาธ์แฮมป์ตัน
กระนั้นในช่วงปรีซีซั่นนี้ ดาวเตะชาวแดนอาทิตย์อุทัย ได้รับความไว้วางใจจาก คล็อปป์ ที่ส่งลงสนามอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง นักเตะก็ยังคงได้รับโอกาสจาก "บอส" เพื่อที่จะดึงศักยภาพที่แท้จริงออกมา

สำหรับแมตช์ล่าสุดกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน แนวรุกทีมชาติญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มกลับมามีความมั่นใจมากขึ้น และยังเป็นคนช่วยยิงประตูให้ทีมตีเสมอ 2-2 แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ คล็อปป์ อยากเห็นจาก มินามิโนะ



กระนั้นหากมองจากความเป็นจริง มินามิโนะ ยังต้องพัฒนาอีกหลายๆ ด้านโดยแมตช์กับทัพ "หญิงชรา"หากไม่นับการยิงประตูซึ่งต้องชม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ตอกส้นคืนมาให้อย่างสุดสวย เขาต้องเจอกับความยากลำบากในการเจาะแนวรับคู่แข่งช่วงครึ่งแรก

อย่างไรก็ตามการที่ กุนซือชาวเยอรมัน เลือก มินามิโนะ ลงเป็นไปทำหน้าที่เป็นสามประสานร่วมกับ "บังโม" และ ซาดิโอ มาเน่ มากกว่าจะใช้งาน ดิว็อก โอริกี้ น่าจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขายังมีอนาคตอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์

4. ตัวหลักเริ่มลงเล่นมากกว่า 45 นาที



ตอนนี้ถือเป็นช่วงสำคัญของการอุ่นเครื่องปรีซีซั่น และแน่นอนว่า คล็อปป์ จำเป็นที่จะต้องให้โอกาสนักเตะตัวหลักของทีมได้ลงสนามนานขึ้นเพื่อเป็นการสร้างสภาพความฟิต และเป็นการพัฒนาฟอร์มการเล่นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่

เป็นเรื่องปกติหากนักเตะคนไหนที่มีแววจะลงเล่นเป็นตัวหลักของทีม พวกเขาเหล่านั้นมักจะถูกจับลงสนามอย่างต่อเนื่องในช่วงปรีซีซั่น และยิ่งใกล้ที่จะเปิดฤดูกาลใหม่ กลุ่มนักเตะพวกนี้จะได้ลงสนามนานยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สำหรับในแมตช์ล่าสุดที่พบกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน งานนี้ 5 นักเตะกำลังสำคัญได้รับโอกาสลงสนามนานมากกว่า 45 นาทีได้แก่ ซาลาห์, มาเน่, เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์



นักเตะเหล่านี้มีโอกาสได้ลงสนามนานถึง 1 ชั่วโมง และแน่นอนว่าพวกเขาทำผลงานได้โดดเด่นเลยทีเดียว แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะแพ้ในเกมนี้ก็ตาม แต่หากมองภาพรวมเรื่องผลงานการเล่นของนักเตะกำลังหลักต้องบอกเลยว่าพวกเขากำลังคืนฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้ง

ส่วนในช่วงอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น คล็อปป์ คงจะให้โอกาสบรรดานักเตะตัวหลักลงสนามนานมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญพวกที่ไปรับใช้ชาติในศึกยูโร 2020 และ โกปา อเมริกา 2020 ค่อยๆ ทะยอยกลับมาร่วมทีม งานนี้คงจะได้เห็นอะไรเด็ดๆ จากทัพ "หงส์แดง" แน่นอน

5. การแข่งขันในตำแหน่งผู้รักษาประตู (มือ2)



ไม่มีอะไรต้องสงสัยสำหรับมือ 1 ของ ลิเวอร์พูล ยังคงเป็นของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ซึ่งแม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมาลงเล่นเกมปรีซํ่นก็ตาม แต่ คล็อปป์ ยังไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นตัวจริงอยู่ดี ฉะนั้นสิ่งที่น่าสนใจก็คือมือ 2 จะเป็นของใคร

ตอนนี้ "หงส์แดง" มีตัวเลือกถึง 3 คนในตำแหน่งยางอะไหล่ของ อลีสซง ได้แก่ ควีวิน เคลเลเฮอร์, อาเดรียน และนายทวารที่โลกลืมนั่นก็คือ ลอริส คาริอุส โดยเกมปรีซีซั่นที่เผ่านมาถือเป็นบทพิสูจน์สำหรับพวกเขาว่าจะได้อยู่เป็นมือที่เท่าไหร่ต่อจาก โกล์ทีมชาติบราซิล

สำหรับในเวลานี้มีแววสูงมากที่ เคลเลเฮอร์ จะได้เป็นมือ 2 ของทีม เพราะเขาได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริงในเกมอุ่นเครื่องกับ ไมนซ์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ในขณะที่ อาเดรียน เป็นตวสำรองทั้งสองแมตช์ ส่วน คาริอุส หมดสิทธิ์ลงสนาม



เห็นได้ชัดว่า นายด่านดาวรุ่งชาวไอริช ได้รับความเชื่อมั่นจาก คล็อปป์ มาก แต่กระนั้นก็อาจมีแววที่เขาจะได้รับอนุญาตให้ย้ายทีมไปเล่นแบบยืมตัวในซีซั่นใหม่ ขณะที่ อาเดรียน น่าจะถูกเก็บตัวเอาไว้ ส่วน คาริอุส บอกเลยว่าต้องหาสโมสรใหม่เล่นให้เร็วที่สุด

ในแมตช์ล่าสุดที่แพ้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน บอกเลยว่าผู้รักษาประตูไม่มีอะไรต้องถูกตำหนิจากการเสีย 4 ลูก เพราะยังไงซะทั้ง เคลเลฮอร์ กับ อาเดรียน ก็คงทำหน้าที่เป็นกำลังเสริมให้กับ อลีสซง ฉะนั้นการได้ลงเฝ้าเสาในช่วงปรีซีซั่นถือเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของทั้งสองคนเท่านั้น




ความคิดเห็น