เรื่องน่าประทับใจที่ เมสซี่ มีต่อเพื่อนร่วมทีมชาติ

 


แน่นอนว่าหนึ่งในคุณสมบัติของการเป็นนักฟุตบอลที่ดีนั้นคือต้องมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตรงจุดนี้คงไม่มีใครที่กล้าจะกังขาในตัว ลิโอเนล เมสซี่ เพราะถึงแม้ฤดูกาลนี้เขาจะยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งกับที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าตัวก็แสดงผลงานที่น่าทึ่งให้คนได้เห็นกันหลายครั้งจนทำให้เขาคู่ควรกับการได้รับคำยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของโลก

อย่างไรก็ตาม เมสซี่ ก็เหมือนกับหลายคนที่นอกจากจะมีฝีเท้าดีแล้วนั้น เขายังเป็นคนที่ใจดีกับหลายคนด้วย จริงอยู่ว่าบางครั้งเขาอาจจะหัวเสียจนตวาดด่าใครไปบ้าง แต่นักเตะเกือบทุกคนก็เคยมีชอตหัวเสียจนทำแบบนั้นกันอยู่แล้ว ซึ่งหนึ่งในนักเตะที่ได้สัมผัสกับความใจดีของ เมสซี่ ก็คือ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ กองกลาง ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

อัลลิสเตอร์ เป็นลูกชายของ คาร์ลอส ฮาเวียร์ แม็ก อัลลิสเตอร์ อดีตแบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งเจ้าตัวก็ตัดสินใจที่จะเป็นนักฟุตบอลตามรอยเท้าของคุณพ่อ แถมเขายังเคยติดทีมชาติอาร์เจนตินา รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รวมถึงเคยเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของทัพ "ฟ้า-ขาว" เป็นจำนวน 2 นัดด้วย



อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้ว อัลลิสเตอร์ มีเชื้อสายไอริชกับสกอตติชมาจากบรรพบุรุษเหมือนกัน และนั่นก็ทำให้เขามีผมสีแดงแบบเดียวกับคนในเครือสหราชอาณาจักรหลายราย อย่างเช่น พอล สโคลส์ ตำนานกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นต้น ซึ่งนั่นก็กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของเจ้าตัวตามไปด้วย

ถึงกระนั้น ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ใช่ทุุกคนที่มีผมสีแดงแล้วจะรูัสึกชอบอกชอบใจกับการถูกเรียกแบบว่า -ไอ้หัวขิง- หรือ -ไอ้หัวแดง- อัลลิสเตอร์ เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขามักจะรู้สึกหงุดหงิดพอตัวเวลาที่มีคนพูดถึงสีผมของตัวเอง เพียงแต่เขาไม่อยากทะเลาะจนกลายเป็นการทำให้เรื่องมันบานปลายก็เท่านั้น

ตอนที่ถูกเรียกติดทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2019 ก็เป็นอีกครั้งที่เขาโดนคนพาดพิงถึงเรื่องสีผม โดยตอนนั้นบรรดานักเตะในทีมชาติอาร์เจนตินามักจะเรียกเเขาว่า -โคโล่- ซึ่งมีความหมายเดียวกับ "ขิง" ในภาษาอาร์เจนตินา เพื่อเป็นการล้อเลียนเจ้าตัว และ อัลลิสเตอร์ ก็ไม่สบอารมณ์พอตัวที่โดนตั้งฉายาแบบนั้น แต่มันก็มีคนที่เข้ามาทำให้การล้อเลียนนั้นจบลง ใช่แล้ว เมสซี่ นั่นเอง



อัลลิสเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อดังว่า "ตอนที่ผมอยู่ในขุมกำลังของทีมชาติอาร์เจนตินา 2 ครั้งน่ะ ผมมีโอกาสได้ซ้อมร่วมกับเขา ผมไม่ได้ลงเล่นร่วมกับเขาเลยน่ะนะ แต่มันก็ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม มันเป็นประสบการณ์อันสุดยอดที่คุณไม่มีวันจะเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ"

"ผมยังจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้เลยว่าตอนนั้นทุกคนเรียกผมว่า -โคโล่- ซึ่งแปลว่า -ขิง- ในอาร์เจนตินา แน่นอนว่าผมไม่ชอบฉายาแบบนั้นแม้แต่นิดเดียว และเขา (เมสซี่) ก็ไปบอกกับเพื่อนร่วมทีมถึงเรื่องนั้น เขาบอกว่่า -เขาไม่ชอบถูกเรียกว่า โคโล่ ดังนั้นอย่าเรียกเขาด้วยฉายาแบบนั้นเชียวนะ!-"

ไม่ต้องบอกก็คงพอจะเดาออกว่าเรื่องนั้นทำให้ อัลลิสเตอร์ รู้สึกประทับใจในตัว เมสซี่ มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเดิมทีเขาก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับ เมสซี่ เป็นครั้งแรกในตอนที่รู้ว่าถูกเรียกตัวติดทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่แล้ว จนถ้าจะบอกว่าเขาตื่นเต้นกับการได้พบ เมสซี่ มากกว่าการได้ลงเล่นให้บ้านเกิดมันก็ไม่ถือว่าเป็นการพูดเกินจริงเลย



"ตอนนั้นผมตื่นเต้นจนหน้าแดงเลยล่ะ" อัลลิสเตอร์ เปิดอก "ผมไม่ได้ทักทายเขาด้วยซ้ำไป ผมประหม่ามากๆ ที่จะได้เจอกับหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของโลกตัวเป็นๆ แต่แน่นอนว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม มันเป็นสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต มันเป็นเหมือนกับเวทมนตร์เลยที่คุณพ่อของผมเคยได้เล่นร่่วมกับ มาราโดน่า ส่วนผมได้ซ้อมร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ เรารูู้สึกภูมิใจกับมันมากๆ"

นับตั้งแต่ได้เจอกับ เมสซี่ ในแคมป์ทีมชาติเมื่อปี 2019 อัลลิสเตอร์ ก็ไม่เคยถูกเรียกติดทีมชาติอาร์เจนตินาอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เพิ่งมีอายุแค่ 23 ปี มันก็หมายความว่าเขาอาจจะยังมีหวังได้กลับไปเจอฮีโร่ของตัวเองก็เป็นได้หากสามารถเค้นฟอร์มเก่งกับ ไบรท์ตันฯ ได้ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ รวมถึงต้นซีซั่นหน้า




ความคิดเห็น